การใช้โทรศัพท์เป็นกุญแจถือเป็นวิธีที่สะดวกต่อการเข้าใช้รถ Model 3 เมื่อคุณเข้าใกล้ จะมีการตรวจพบสัญญาณบลูทูธในโทรศัพท์ของคุณ และประตูจะปลดล็อก เมื่อคุณดึงมือจับประตู ในทำนองเดียวกัน เมื่อคุณลงจากรถและออกห่างจากตัวรถโดยพกกุญแจโทรศัพท์ติดตัว ประตูจะล็อกโดยอัตโนมัติ (หากเปิดใช้ฟีเจอร์ล็อกเมื่อออกห่างจากตัวรถ โปรดดู ล็อกประตูเมื่อออกห่างจากตัวรถ)

เมื่อตรวจสอบสิทธิ์โทรศัพท์แล้ว ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อใช้เป็นกุญแจโทรศัพท์สำหรับ Model 3 อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม หากต้องการใช้โทรศัพท์แบบไร้สัมผัส เข้าถึงผู้ติดต่อในโทรศัพท์ เล่นสื่อจากโทรศัพท์ ฯลฯ คุณยังต้องจับคู่และเชื่อมต่อโทรศัพท์เป็นอุปกรณ์บลูทูธด้วย (ดู บลูทูธ)

สมาร์ทโฟนบางรุ่นที่มีคุณสมบัติ NFC สามารถใช้เพื่อล็อก/ปลดล็อกรถของคุณได้เหมือนกับคีย์การ์ด ตรวจสอบว่าแอปมือถือ Tesla จับคู่กับรถของคุณอย่างถูกต้องและเปิดใช้งานฟังก์ชัน NFC บนโทรศัพท์ของคุณ เมื่อเปิดใช้งานแล้ว ก็เพียงถือโทรศัพท์หันไปทางเสาประตูฝั่งคนขับเพื่อล็อกหรือปลดล็อกประตู โปรดดูข้อมูลรายละเอียดวิธีการใช้งานได้ในคำแนะนำของสมาร์ทโฟนของคุณ

โปรดทราบว่ากุญแจโทรศัพท์จะเป็นกุญแจ “หลัก” โดยค่าเริ่มต้น และรถจะใช้บลูทูธเพื่อตรวจจับระยะห่างระหว่างโทรศัพท์ของคุณกับรถ หากคุณทิ้งโทรศัพท์ที่จับคู่ไว้ในรถและเปิดใช้งานบลูทูธก็จะเหมือนกับการทิ้งกุญแจไว้ในรถโดยไม่ได้ล็อกประตู แม้ว่าคุณจะกดไอคอนล็อกบนแอปมือถือขณะนั่งอยู่ในรถก็ตาม ดังนั้นรถของคุณอาจไม่ปลอดภัยหากคุณล็อกรถโดยทิ้งกุญแจโทรศัพท์ที่จับคู่ไว้ข้างใน เพราะModel 3 จะปลดล็อกประตูเมื่อมีคนดึงมือจับประตูภายนอก เนื่องจากระบบตรวจพบกุญแจโทรศัพท์ดังกล่าวแล้ว อย่าทิ้งสมาร์ทโฟนของคุณไว้ที่หน้ากระโปรงรถ

เมื่อคุณกดปุ่มล็อกในแอปมือถือขณะที่กุญแจโทรศัพท์เชื่อมต่ออยู่กับ Model 3 เสียงเตือนและหน้าจอสัมผัสจะจะบอกให้คุณแตะไอคอนล็อกบนหน้าจอสัมผัส การแตะไอคอนล็อกบนหน้าจอสัมผัสจะแทนที่การตั้งค่าการล็อกด้วยโทรศัพท์เป็นการชั่วคราว เช่น ล็อกเมื่อออกห่างจากตัวรถ มิฉะนั้นประตูจะปลดล็อกเมื่อมีคนดึงมือจับประตูภายนอก แม้ว่าคุณจะกดไอคอนล็อกบนแอปมือถือก็ตาม เนื่องจากคุณยังคงเปิดใช้งานโทรศัพท์เป็นกุญแจอยู่ หากคุณเปิดประตูจากข้างใน ประตูก็จะสามารถเปิดจากข้างนอกได้อีกครั้ง ตราบใดที่ตรวจพบกุญแจโทรศัพท์ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ การล็อกและการปลดล็อกจากภายใน)

เมื่ออยู่ข้างใน ให้สตาร์ทรถ Model 3 โดยเหยียบแป้นเบรกภายในสองนาทีขณะที่สแกนคีย์การ์ด (ดู การสตาร์ทและการดับเครื่อง) หากคุณรอนานเกินสองนาที คุณต้องตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้งโดยวางคีย์การ์ดไว้ใกล้ ๆ ตัวอ่านการ์ดที่อยู่ในอุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์ไร้สายตรงคอนโซลกลาง เมื่อตรวจพบคีย์การ์ดแล้ว ระยะเวลาการตรวจสอบสิทธิ์สองนาทีจะเริ่มใหม่

หากคุณซื้ออุปกรณ์เสริมกุญแจรีโมต คุณทำความคุ้นเคยกับกุญแจนี้ได้อย่างรวดเร็วโดยคิดว่าเป็นรถ Model 3 จิ๋วที่มีตรา Tesla อยู่ด้านหน้า โดยกุญแจนี้มีสามปุ่มที่มีส่วนที่นุ่มบนพื้นผิว

1. กระโปรงหน้า - กดคลิกสองครั้งเพื่อปลดล็อกกระโปรงหน้า
2. ล็อก/ปลดล็อกทั้งหมด - กดคลิกหนึ่งครั้งเพื่อล็อกประตูและกระโปรงรถ (ประตูและกระโปรงรถทั้งหมดต้องปิดอยู่) กดคลิกสองครั้งเพื่อปลดล็อกประตูและกระโปรงรถ
3. กระโปรงหลัง - กดคลิกสองครั้งเพื่อปลดล็อกกระโปรงหลัง กดค้างไว้หนึ่งถึงสองวินาทีเพื่อเปิดฝาพอร์ตชาร์จ

เมื่ออยู่ข้างใน ให้สตาร์ทรถ Model 3 โดยเหยียบแป้นเบรกภายในสองนาทีขณะที่กดปุ่มปลดล็อกบนกุญแจรีโมต (ดู การสตาร์ทและการดับเครื่อง) หากคุณรอนานเกินสองนาที คุณต้องกดปุ่มปลดล็อกอีกครั้งหรือวางกุญแจรีโมตใกล้กับตัวอ่านการ์ดที่อยู่บนอุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์ไร้สายบนคอนโซลกลาง เมื่อตรวจพบกุญแจรีโมตแล้ว ระยะเวลาการตรวจสอบสิทธิ์สองนาทีจะเริ่มใหม่

เมื่อเข้าใกล้รถหรือออกจากรถ Model 3 โดยพกกุญแจรีโมตติดตัว คุณไม่จำเป็นต้องชี้กุญแจรีโมตไปที่รถ Model 3 ขณะกดปุ่ม แต่ต้องอยู่ภายในระยะการทำงาน

อุปกรณ์วิทยุที่มีความถี่ใกล้เคียงกันอาจส่งผลกระทบต่อกุญแจได้ หากกรณีนี้เกิดขึ้น ให้วางกุญแจไว้ห่างจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ (โทรศัพท์ แล็ปท็อป เป็นต้น) อย่างน้อย 30 ซม.

ในกรณีที่แบตเตอรี่ของกุญแจรีโมตหมด คุณยังคงใช้กุญแจดังกล่าวขับขี่รถได้โดยสแกนกุญแจรีโมตกับตัวอ่านการ์ดที่อยู่ตรงเสาประตูฝั่งคนขับ (เช่นเดียวกับคีย์การ์ด)

คำแนะนำในการเปลี่ยนแบตเตอรี่มีอยู่ใน การเปลี่ยนแบตเตอรี่กุญแจรีโมต

หากต้องการแสดงรายการกุญแจทั้งหมดที่สามารถเข้าถึง Model 3 ได้ ให้แตะการควบคุม > ล็อก ไอคอนจะแสดงข้าง ๆ กุญแจแต่ละรายการเพื่อระบุว่ากุญแจนั้นคือกุญแจโทรศัพท์ คีย์การ์ด หรือกุญแจรีโมต ใช้รายการนี้เพื่อจัดการกุญแจที่สามารถเข้าใช้รถ Model 3 ของคุณได้

Model 3 รองรับกุญแจทั้งหมด 19 รายการในแต่ละครั้ง กุญแจ 3 รายการอาจเป็นกุญแจโทรศัพท์ กุญแจรีโมต หรือกุญแจนาฬิกา เมื่อถึงขีดจำกัดนี้ คุณต้องลบกุญแจออกก่อนเพิ่มกุญแจใหม่

คุณสามารถจับคู่คีย์การ์ดหรือกุญแจรีโมตกับรถ Tesla หลายคันได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องจัดการกับกุญแจหลายรายการเมื่อเปลี่ยนรถ คีย์การ์ดและกุญแจรีโมตสามารถจับคู่และใช้กับรถได้หลายคันในแต่ละครั้ง การจับคู่กับรถช่วยให้คุณเข้าถึงรถและเปิดใช้งานการขับขี่ได้

ในการใช้งานปกติ กุญแจรีโมตเสริมจะมีแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานนานสูงสุดหนึ่งปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของกุญแจรีโมตและการตั้งค่าของรถที่เลือก เมื่อแบตเตอรี่ต่ำ ข้อความจะแสดงขึ้นบนหน้าจอสัมผัส

วิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่กุญแจรีโมต:

1. ขณะที่หันด้านที่มีปุ่มบนพื้นผิวนุ่มของกุญแจรีโมตลงล่าง ให้ถอดฝาปิดด้านล่างออกโดยใช้เครื่องมือหัวแบนขนาดเล็ก
2. ถอดแบตเตอรี่โดยยกแบตเตอรี่ออกจากคลิปหนีบ
3. ใส่แบตเตอรี่ใหม่เข้าไป (ชนิด CR2032) โดยให้ด้านที่มีเครื่องหมาย "+" หันขึ้นบนขณะหลีกเลี่ยงการสัมผัสพื้นผิวเรียบของแบตเตอรี่
   หมายเหตุ

   เช็ดแบตเตอรี่ให้สะอาดก่อนใส่เข้าไปและหลีกเลี่ยงการสัมผัสพื้นผิวเรียบของแบตเตอรี่ รอยนิ้วมือบนพื้นผิวเรียบของแบตเตอรี่อาจทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้นลง
   หมายเหตุ

   สามารถซื้อแบตเตอรี่ CR2032 ได้จากร้านค้าปลีกที่ขายแบตเตอรี่
4. เอียงฝาปิดด้านล่าง จัดตำแหน่งแถบบนฝาปิดให้ตรงกับช่องบนกุญแจรีโมต แล้วกดฝาปิดเข้ากับกุญแจรีโมตจนเข้าที่แน่นหนา
5. ทดสอบว่ากุญแจรีโมตทำงานโดยปลดล็อกและล็อกรถ Model 3

หากคุณทำคีย์การ์ดหรือกุญแจรีโมตหาย คุณสามารถซื้อกุญแจใหม่ได้ที่ Tesla Shop เมื่อพร้อมที่จะจับคู่ เพียงปฏิบัติตามขั้นตอนใน การจัดการกุญแจ อย่าลืมลบคีย์การ์ดเก่าของคุณออกจากการควบคุม > ล็อก > กุญแจเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการรักษาความปลอดภัย