การแก้ไขปัญหาหัวชาร์จติดผนัง

สามารถระบุหัวชาร์จติดผนังได้จากหมายเลขชิ้นส่วนบนฉลากด้านข้าง ซึ่งจะแสดงเป็น TPN: 1457768-##-# ลูกค้าควรถ่ายภาพฉลากด้านข้างไว้เป็นหลักฐาน

ในการแก้ไขปัญหาหัวชาร์จติดผนัง คุณจะต้องใช้คู่มือเริ่มต้นใช้งานด่วน อุปกรณ์เคลื่อนที่และการเข้าถึงหัวชาร์จติดผนังของคุณ

การสนับสนุนการแก้ไขปัญหา

การแก้ไขปัญหาหัวชาร์จติดผนัง ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

1. คลิกที่ปุ่ม ‘วินิจฉัย’ ด้านล่างหากหัวชาร์จติดผนังของคุณมีปัญหา
2. ระบบจะขอให้คุณลงชื่อเข้าใช้บัญชี Tesla ของคุณและดำเนินการตามขั้นตอนการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นสองสามขั้นตอน
3. หากปัญหาของคุณยังไม่ได้รับการแก้ไข เราจะเชื่อมต่อคุณกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิค

หมายเหตุ: หากรหัสผ่านของคุณหายและไม่สามารถเข้าถึงคู่มือเริ่มต้นใช้งานด่วนได้ ให้ใช้ปุ่มวินิจฉัยด้านล่าง เตรียมหมายเลขชิ้นส่วนของ Tesla และหมายเลขซีเรียลของ Tesla ไว้ให้พร้อม

กลับไปด้านบน

ใช้แอป Tesla เพื่อควบคุม กำหนดเวลา และรับข้อมูลเกี่ยวกับหัวชาร์จติดผนัง ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของรถ Tesla หรือรถยนต์ไฟฟ้าไฟฟ้าอื่นๆ ก็ตาม ในการตั้งค่าหัวชาร์จติดผนังให้เสร็จสมบูรณ์ ให้ทำตามขั้นตอนที่แนะนำเพื่อ ลงทะเบียนหัวชาร์จติดผนังและเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ในบ้านของคุณ

ผู้ติดตั้งสามารถดำเนินกระบวนการทดสอบการทำงานในแอป Tesla One ให้เสร็จสิ้นได้ รวมถึงการเลือกการตั้งค่าสวิตช์เบรกเกอร์, การกำหนดค่าการใช้กระแสไฟฟ้าร่วมกัน, และการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi

กลับไปด้านบน

ด้านล่างนี้เป็นคำแนะนำทีละขั้นตอนสำหรับความช่วยเหลือเกี่ยวกับกระบวนการเริ่มต้นใช้งานด่วนและการเชื่อมต่อ Wi-Fi หากคุณหรือผู้ติดตั้งของคุณได้ลงทะเบียนและเชื่อมต่อเครื่องชาร์จติดผนังในแอป Tesla แล้ว ไม่จำเป็นต้องดำเนินการต่อด้านล่าง

หัวชาร์จติดผนังจะรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์โดยอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ขั้นตอนแรกสำหรับการแก้ไขปัญหาทั้งหมดคือต้องให้แน่ใจว่าหัวชาร์จติดผนังได้รับการทดสอบและตั้งค่าการทำงานอย่างถูกต้องแล้ว เพื่อให้สามารถชาร์จได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ล่าสุดเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดและได้รับฟีเจอร์ล่าสุด

หมายเหตุ: ก่อนทำตามขั้นตอนด้านล่าง เตรียมคู่มือเริ่มต้นใช้งานด่วนและรหัสผ่านเครือข่าย Wi-Fi ที่บ้านของคุณไว้ให้พร้อม และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ถอดปลั๊กหัวชาร์จติดผนังออกจากรถแล้ว ถอดปลั๊กหัวชาร์จติดผนังออกจากรถของคุณไว้ตลอดทั้งกระบวนการทดสอบและตั้งค่าการทำงาน หากรหัสผ่านของคุณหายและไม่สามารถเข้าถึงคู่มือเริ่มต้นใช้งานด่วนได้ ให้ใช้ปุ่มวินิจฉัยด้านล่าง เตรียมหมายเลขชิ้นส่วนของ Tesla และหมายเลขซีเรียลของ Tesla ไว้ให้พร้อม

การทดสอบและตั้งค่าการทำงานของหัวชาร์จติดผนัง ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

1. ดำเนินการเพื่อให้หัวชาร์จติดผนังของคุณกระจายสัญญาณ Wi-Fi

• ไปที่สวิตช์เบรกเกอร์ของคุณ แล้วปิดเบรกเกอร์เป็นเวลาห้าวินาที ในช่วงเวลานี้ ให้สังเกตค่าแอมแปร์ของเบรกเกอร์ที่ช่างไฟฟ้าของคุณติดตั้งให้แก่เครื่องชาร์จ
• หากไม่สามารถเข้าถึงสวิตช์เบรกเกอร์ได้ ให้กดปุ่มที่จับสายค้างไว้ห้าวินาทีเพื่อให้หัวชาร์จติดผนังกระจายสัญญาณ Wi-Fi เมื่อไฟทุกดวงสว่างขึ้น คุณสามารถปล่อยปุ่มได้

2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหัวชาร์จติดผนังกำลังกระจายสัญญาณอยู่

• ให้ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวชาร์จติดผนังของคุณตลอดทั้งกระบวนการ หลังจากการรีสตาร์ทหรือการกดปุ่มด้านบนเสร็จสมบูรณ์ หัวชาร์จติดผนังของคุณจะแสดงไฟ LED สีเขียวที่สว่างเป็นจังหวะและกระจายสัญญาณ Wi-Fi ของตัวเองสูงสุดสิบห้านาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของเฟิร์มแวร์

3. ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ ค้นหาและเลือกเครือข่าย Wi-Fi ของหัวชาร์จติดผนัง

• บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ ภายใต้ ‘การตั้งค่า’ ให้ค้นหาและเลือก Wi-Fi ของหัวชาร์จติดผนังของคุณที่ชื่อ TeslaWallConnector_XXXXXX จากนั้น เชื่อมต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อปของคุณกับหัวชาร์จติดผนัง
• หากเครือข่ายของหัวชาร์จติดผนังไม่แสดงขึ้น ให้กลับไปที่ขั้นตอนที่ 1 หากคุณปิดเบรกเกอร์ ให้กลับไปที่หัวชาร์จติดผนังเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟดับอยู่ จากนั้นเปิดเบรกเกอร์อีกครั้งและกลับมาที่หัวชาร์จติดผนังของคุณ

4. เชื่อมต่อกับ Wi-Fi ของหัวชาร์จติดผนังของคุณ

• กรอกรหัสผ่าน WPA2 จำนวน 12 หลักที่อยู่ด้านหน้าของคู่มือเริ่มต้นใช้งานด่วนของหัวชาร์จติดผนังเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ของคุณกับหัวชาร์จติดผนัง รหัสผ่านนี้ต้องตรงตามตัวพิมพ์ใหญ่-เล็ก หากคุณเคยเชื่อมต่อกับเครือข่าย TeslaWallConnector_XXXXXX ก่อนหน้านี้ ระบบอาจไม่แจ้งให้คุณกรอกรหัสผ่านและอุปกรณ์ของคุณอาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยอัตโนมัติ
• หากคุณใส่รหัสผ่านผิดที่และคู่มือเริ่มต้นใช้งานด่วนไม่พร้อมใช้งาน ให้ใช้เครื่องมือวินิจฉัย เตรียมหมายเลขชิ้นส่วนของ Tesla และหมายเลขซีเรียลของ Tesla ไว้ให้พร้อม
• หมายเหตุ: หากอุปกรณ์ที่ใช้อยู่แสดงการแจ้งเตือนว่าไม่ได้เชื่อมต่อ Wi-Fi กับอินเทอร์เน็ต การแจ้งเตือนนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติและเป็นไปตามที่คาดไว้ ดำเนินการต่อโดยให้เชื่อมต่อกับ Wi-Fi ของหัวชาร์จติดผนังของคุณไว้ หากอุปกรณ์เปลี่ยนกลับไปใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่รู้จักโดยอัตโนมัติ อาจจำเป็นต้องเปิดโหมดเครื่องบินหรือลบเครือข่ายในบ้านออกจากอุปกรณ์จนกว่าการทดสอบการทำงานจะเสร็จสมบูรณ์

5. สแกนรหัส QR ด้วยกล้องอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณหรือกรอกที่อยู่ IP ด้านล่างลงในเว็บเบราว์เซอร์ใดก็ได้

• ขณะที่เชื่อมต่อกับ Wi-Fi ของหัวชาร์จติดผนัง ให้สแกนรหัส QR ด้านบนด้วยกล้องอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ หรือกรอกที่อยู่ IP http://192.168.92.1 ลงในเว็บเบราว์เซอร์เพื่อตั้งค่าหัวชาร์จติดผนังของคุณ รวมถึงเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ในพื้นที่ของคุณ
• หมายเหตุ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้เว็บเบราว์เซอร์ เช่น Google Chrome หรือ Safari ไม่ใช่แอปค้นหา
• หน้าเว็บควรปรากฏขึ้นพร้อมตัวเลือกด้านล่าง:

• หากหน้าแรกของวิซาร์ดไม่สามารถโหลดได้อย่างสมบูรณ์ ให้แก้ไข URL เป็น http://192.168.92.1/installation แล้วแตะ 'ไป'

6. ถัดไป ไปที่ 'การติดตั้ง'

• จากเมนูประเทศแบบเลื่อนลง ให้เลือกประเทศที่คุณอาศัยอยู่ จากเมนูสวิตช์เบรกเกอร์แบบเลื่อนลง ให้ยืนยันและเลือกขนาดของสวิตช์เบรกเกอร์ที่ติดตั้งหัวชาร์จติดผนังของคุณอยู่ แล้วกด 'บันทึก'

7. เชื่อมต่อกับ Wi-Fi เพื่อตั้งค่าหัวชาร์จติดผนังของคุณให้เสร็จสมบูรณ์

• หากหน้าแรกของวิซาร์ดไม่สามารถโหลดได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง ให้แก้ไข URL เป็น http://192.168.92.1/wifi แล้วแตะ 'ไป'
• จากหน้าแรก ให้เลือก 'Wi-Fi' และรอให้ Wi-Fi ที่บ้านของคุณใส่ข้อมูล หากหน้าดังกล่าวไม่ปรากฏขึ้น ให้แตะ 'สแกนอีกครั้ง' ระบบจะแจ้งให้คุณกรอกรหัสผ่านเครือข่ายในบ้านของคุณ
• เมื่อเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่บ้านแล้ว หน้าจะแสดงรายการรายละเอียดเครือข่ายของคุณ เพื่อยืนยันว่าหัวชาร์จติดผนังของคุณเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์แล้ว ให้ตรวจสอบแน่ใจว่ามีเครื่องหมายถูกอยู่ถัดจาก 'เชื่อมต่อกับ Tesla แล้ว' และ 'เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตแล้ว'
• หากคุณไม่เห็นเครือข่ายของคุณในรายการหลังจากกดปุ่ม 'สแกนอีกครั้ง' หรือไม่ได้รับเครื่องหมายถูกเพื่อยืนยันการเชื่อมต่อของคุณหลังจากที่พยายามเชื่อมต่อ ให้ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของเครือข่ายของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าการตั้งค่าด้านล่างถูกต้อง:
  • Wi-Fi 2.4 GHz: ไม่มีเครือข่ายที่ใช้ร่วมกันแบบ 5.0 หรือ 6.0 GHz
  • ความปลอดภัย WPA2: ไม่มีเครือข่ายที่ใช้ร่วมกันแบบ WPA2/3
  • ไม่มีการกรองที่อยู่ MAC
  • ไม่มีการกรองเนื้อหา
• ตรวจสอบกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือผู้ผลิตเราเตอร์ของคุณตามความจำเป็นเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยและการตั้งค่าเครือข่ายเหล่านี้

กลับไปด้านบน

วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้หัวชาร์จติดผนังอัปเดตอยู่เสมอคือการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ในพื้นที่ หากไม่สามารถทำได้ สามารถติดตั้งการอัปเดตเฟิร์มแวร์ด้วยตนเองได้โดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

1. ดาวน์โหลดไฟล์เฟิร์มแวร์
   บันทึกไฟล์ไว้ในอุปกรณ์ที่คุณจะใช้เพื่อเชื่อมต่อกับหัวชาร์จติดผนังของคุณ เราขอแนะนำให้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อป ดาวน์โหลดด้านล่าง:
   เฟิร์มแวร์ 23.24.4
2. เชื่อมต่อกับจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi ของหัวชาร์จติดผนัง

• ทำตามขั้นตอนที่หนึ่งถึงหกด้านบนเพื่อดำเนินการติดตั้ง สามารถดูรายละเอียดชื่อเครือข่าย (SSID) และรหัสผ่าน (WPA2) ได้จากคู่มือเริ่มต้นใช้งานด่วนที่มาพร้อมกับหัวชาร์จติดผนังของคุณ
• หมายเหตุ: หากไม่มีคู่มือเริ่มต้นใช้งานด่วนและคุณไม่สามารถค้นหารหัสผ่านของคุณได้ ให้ใช้เครื่องมือวินิจฉัย เตรียมหมายเลขชิ้นส่วนของ Tesla และหมายเลขซีเรียลของ Tesla ไว้ให้พร้อม

3. ไปที่หน้าการอัปเดต

• หลังจากเชื่อมต่อกับจุดเชื่อมต่อ Wall Connector แล้ว ให้ใช้เว็บเบราว์เซอร์เพื่อไปที่ http://192.168.92.1/update หรือ http://192.168.92.1/service

4. ติดตั้งไฟล์เฟิร์มแวร์

• เลือก 'เลือกไฟล์' จากนั้นอัปโหลดไฟล์เฟิร์มแวร์ของหัวชาร์จติดผนัง คลิก 'อัปโหลด' และรอประมาณไม่เกินหนึ่งนาที

5. ยืนยันการอัปเดตเฟิร์มแวร์

• หากการอัปเดตเฟิร์มแวร์ด้วยตนเองสำเร็จ จะมีข้อความแจ้งว่าการอัปเดตสำเร็จแสดงขึ้น หัวชาร์จติดผนังของคุณอาจรีบูต
• หากข้อความแจ้งว่าไม่สำเร็จปรากฏขึ้น ให้รีสตาร์ทหัวชาร์จติดผนังของคุณโดยปิดสวิตช์เบรกเกอร์ แล้วเปิดอีกครั้ง จากนั้นลองอัปโหลดการอัปเดตเฟิร์มแวร์อีกครั้ง

กลับไปด้านบน

• คู่มือการติดตั้ง Wall Connector
• การติดตั้งการชาร์จที่บ้าน
• คู่มือผลิตภัณฑ์การชาร์จและอะแดปเตอร์

กลับไปด้านบน